วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

Singapore Toy games & comic convention 2009.

20.08.2009 
: Day 1 & 2 @ Singapore.

Singapore Toy games & comic convention 2009.
Diary Work and Travel 12-17 August 2009 @ Singaport: ทำงานไปเที่ยวไป เพลินไปอีกแบบ กลับ
มาคราวนี้เลยมีเรื่องเล่าและเก็บรูปภาพมาฝากมากมาย นอกจากจะเล่าถึงเรื่องของงาน STGCC 2009
แล้วก็ยังมีภาพที่เที่ยวต่างๆในสิงคโปร์มาฝากด้วย ประสบการณ์การเดินทางในต่างแดนครั้งแรก เพลินๆ
ชิวๆ ไม่ยากอย่างที่คิด

วันที่ 12 สิงหาคม 2009
เวลา 6:20น. ถึงสนามบินอย่าง ง่วงๆ แต่ก็พยายามทำหน้าสดชื่น อะอะ วันแม่
ต้องโทรไปบอกรักแม่ ก่อนออกเดินทาง ทริป work&Travel ครั้งนี้ มี อัย , กริฟ และ โอ(Zylo) เดินทาง
ล่วงหน้าไปจัดบูธกันก่อนพลพรรค ก็ตามมาที่หลัง.....

ระหว่างการรอขึ้นเครื่องในเวลา 9.25น. ก็ถ่ายรูปแก้ง่วงไปเรื่อยๆ สำภาระคราวนี้หนักมากๆๆ โคตรหนัก
แบกจนตัวเตี๊ยลงไปอีก สำภาระติดตัวก็มี คอมพิวเตอร์ หนึ่งตัวหนักๆ กล้องหนักๆ กางเกงยีนต์หนักๆ เฮ้อ

แล้วก็ได้ขึ้นเครื่องกันซักที โลคอส (ราคาถูก) Jet Star ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดสำหรับคนตัวเล็กอย่างเรา
ก็เรื่อยๆ สบายๆไม่เมื่อยแต่สำหรับคนตัวใหญ่อย่างน้องสาว ก็ดูได้จากรูปว่า มันก็ติดแข้งติดขาอย่างที่
เห็น แต่เอาเถอะ แค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วไม่ซีเรียส

และแล้วก็มาถึงห้องพักอย่างรวดเร็วหลังจากมีคนของทางแพ็คเกจที่จองมารับถึง สนามบิน ทุกอย่าง
On time มากๆ แต่ตอนนี้ง่วงสุดขีดอยากจะนอนพักมากแต่ก็ต้องออกไปดำเนินการเรื่องบูธ เรื่อง Register
เข้างาน ให้เรียบร้อยก่อน หนักหน่วงมากวันแรกเพราะนอนมาไม่พอ ห้องพักวันแรกๆ ก็เล็กๆอย่างที่เห็น
เป็นห้องที่ไม่มีไรมาก เตียงนอน ห้องน้ำ ทีวี(ไม่มีอะไรจะดู) มาถึงก็รื้อของ ที่แบกหนักๆออกจากกระเป๋าให้
มากที่สุด เพราะเราจะต้องเดิน เดิน กันต่อไป โรงแรมนี้ติดถนนเรียกแท็กซี่ไปไปไหนมาไหนง่าย

ก่อนไปที่ Convention ก็แวะเติมพลังซักหน่อย ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร แปลกที่แปลกทางก็กินอะไรพื้นๆ
ไปก่อน บะหมี่หมูแดงก็คล้ายๆบ้านเรา เพียงแต่ไม่มีเครื่องปรุงเว่อร์ๆแบบเราก็เท่านั้น พอกินได้ อร่อย
เพราะหิว แต่ขอโทษสั่งบะหมี่หมูแดงร้านข้างทางธรรมดา แต่ราคาห้างมากๆ 3.5$ ( 3.5X23 = 80) บะหมี่
สามัญชน 80 บาท โอ้วพระจ้าวววจ๊อด ยังไม่รวมน้ำอีก 1$ กว่าๆ ฮึๆๆๆๆๆหลังจากกินเรียบร้อย อิ่มพอ
ประมาณ ก็เริ่มต้องมีการติดต่อสื่อสารกลับทางบ้าน ซื้อ Sim (Singtel) มาเรียบร้อยก็จัดการรีจีสเป็นอัน
เสร็จพิธีอย่างง่ายดาย โทรกลับบ้าน บอกทุกอย่างโอเค แต่อาหารแพงมาก ฮ่าฮ่าฮา

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงที่ Suntec City Hall (convention hall) <--- Hall ที่มีการจัด Exhibition ในครั้งนี้
ไปง่าย แต่ด้านในใหญ่อลังการ มีหลายตึกเชื่อมต่อกัน มีหลายโซน เดินหลงไปวนไปวนมาจนชำนาญมาก
เฮอะๆๆๆ

แล้วก็เข้ามาภายในงาน โซนที่เรียกว่า Artist Alley ซอยศิลปิน ที่มาจากหลายๆที่ วันแรกยังดูโล่งๆ แต่ก็มี
คนมาติดตั้งบูธกันแล้ว หลังจากมารับ Tag : Exhibitor เข้างาน เรียบร้อยตรวจสอบสถานที่ตั้งบูธเรียบร้อย
ก็ออกอาการเหนื่อย และเพลียจากการเดินทางก็เคลื่อนย้ายกลับโรงแรม เพื่อรอเวลาเที่ยวต่อในตอนกลาง
คืน ฮึฮึฮึ

เดินท่องราตรีคืนแรกจาก Bencoolen----> ไปถึง Orchard ไกล หนัก แต่ประทับใจ บ้านเมืองเค้าใสสะอาด
กิ๊ก กิ๊ก อากาศร้อนแต่ไม่เหนียวตัวเลย เดินสบายๆ แสงสีบนถนนสดใสน่าถ่ายรูปมากๆ แถมไม่มีสายไฟ
แกะกะให้รกสายตาตอนถ่ายรูปเลยยอดเยี่ยม

เราเดินไปถ่ายรูปไปตลอดทาง และก็หาร้านของกินเพื่อเติมพลังด้วย ตอนนี้หน้าตายังสดใสอยู่เพราะยัง
หิวไม่มาก สู้ต่อไป

เดินถ่ายรูปมาจนถึงร้านอาหารข้างทางอีกเช่นเคยแต่โซนนี้ฟิวๆลานเบียร์ที่มี ของกินด้วย หน้าตาแต่ละคน
เพลียจัดแต่ก็ยังสู้อยู่ต้องเติมอาหารเข้าไปก่อนที่จะได้เวลาเดินกลับที่พักเพื่อพักผ่อนสำหรับงาน หนักใน
วันพรุ่งนี้อาหารจานแรก เป็นหอยทอด ธรรมดาบ้านเรา จานที่สองเป็นก๋วยเตี๋ยวแบบใส่ไข่ จืดๆ และจานที่
สามก็ข้าวหน้าเป็ดธรรมดา

หลังจากเติมพลังเรียบร้อย ก็เดินทางกลับที่พัก แต่ก็ยังไม่วายต้องถ่ายรูปกันอีก แต่คราวนี้ถ่ายแบบนั่งๆ
เพราะเหนื่อยเหลือเกิน

และเมนูสุดท้ายก่อนเข้าที่พัก ก็คือ Mash Potato + โค้ก ที่เค้าร่ำลือ ลองกันคนละชุด ชุดละ 2$ กว่าๆ
สดชื่น......ก่อนเข้านอน จบการเดินทางของวันที่ 12 สิงหาอย่างสนุกสนาน และ สลบคาเตียง
.................................................................................................................................................................
• วันที่ 13 สิงหาคม 2009 : วันจัดบูธ และ วันเปิดงาน SGTCC2009
ขนของออกจากโรงแรมกันแต่เช้า กระเป๋าหนักกันคนละ 20 กิโล กว่าๆ ลากกันไปขึ้นแท็กซี่หน้าโรงแรม

มาถึงบูธก็เริ่มแกะของที่แพคมาเตรียมติดตั้งอย่างขะมักเขม้น เพราะงานจะเริ่มตอนบ่ายสามโมง แต่ตอนนี้
ก็ 11.00 แล้ว
ติดๆๆๆ แปะๆๆ ตามแผนที่ได้วางไว้อย่างไม่มีผิดพลาด ของทุกอย่างเตรียมมาครบไม่ขาดไม่เกิน บูธของ
Studioaiko ไม่มีอะไรมากเน้นแปะโชว์คาแรกเตอร์อย่างเดียว เน้นเยอะและสีสดๆ แต่ก็ยังเป็น Theme ดำๆ
เหมือนเคย

หลังจากติดภาพในบูธเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปเติมพลังรอบเที่ยง ระหว่างออกจาก Hall ก็เจอกับซุ้มน้อง
บลายด์ ก็ถ่ายเก็บมาซะหน่อย

อาหารมื้อแรกของวันที่ 13 นั่งกินกันที่ร้านอาหารเกาหลี ราคาอาหารพอสู้ไหว ชุดละ 6.5$ บวกน้ำอีก 1$
กว่าๆ ก็อร่อยดี หมูกระทะจานร้อน กับข้าวอุ่นๆๆ เฮอะๆๆๆๆ อิ่ม อิ่ม

หลังจากกินข้าวเสร็จก็รีบขึ้นมาจัดของบนโต๊ะเพื่อเตรียมโชว์และขาย ของที่เตรียมไปก็มี T-shirts ,
Postcards, plush , Badges. เอาไปอย่างละนิดละหน่อยเท่าที่กำลังจะมีขนไปขายได้ จัดๆๆๆวางๆๆ เสร็จก็
ออกไปเดินเล่นดูบูธในงานว่ามีไรน่าสนใจบ้าง
เริ่มที่บูธแรกเด่นชัดที่สุด ตุ๊กตา Blythe มีแต่ตัวเด็ดๆ ที่ประกวดชนะตามงานต่างๆ มาโชว์ทั้งนั้น สวยหรูเกินห้ามใจจริงๆ
ตามด้วยบูธของศิลปินต่างประเทศอีกมากหน้าหลายตา ตามไปดูรูปกันเลย เก็บมาฝากเล็กๆน้อย
ปล.ชอบมากๆๆ Uglydoll !!!
แล้วก็ต่อด้วยบูธของ Tofu & Molly มีของโชว์ในชั้นน่ารักๆๆๆ ทั้งนั้น ราคาไม่ต้องพูดถึง ฮึๆๆๆ แต่ก็ได้
ของติดไม้ติดมือมาเหมือนกัน

เดินดู Tofu อยู่ซักพักก็ออกไปนอก Hall ก็เจอเหล่าบรรดาอาร์ตติสทั้งหลายกำลังวาดภาพงานของตัวเอง
กันบนผนังด้านหน้า งาน
ต่อด้วยเข้ามาที่บูธใหญ่ของ GRAY BASEMAN ของน่ารักๆๆ ทั้งนั้นเลย
แล้วก็ไปเดินเล่นแถวๆโซนขายของเล่น ตุ๊กตาพลาสติก น่ารักๆๆๆๆๆ อยากได้ๆๆ มากันเป็นกองทัพเลย



หลังจากเดินร่อนไปร่อนมาทั้งวันก็ได้เวลากลับบูธของตัวเองซะที แฮะๆ อู้มานาน
กลับมาถึงบูธก็มีคนมาเยี่ยมบูธ และให้เราวาดรูปเป็นที่ระลึกให้เค้า

วันแรกของวันเปิดงานก็ได้เดินเที่ยวชมงานและได้พบปะ Media (สื่อทางทีวี และ แมกกาซีน ) และ Guest
VIP ต่างๆ
ก่อนเลิกงาน ก็มีรายการ Animax มาขอให้ออก Spot รายการให้ เป็นภาษาไทย กริฟทำหน้าที่ได้ดี 5555
ส่วนตัวเรานั้นขออยู่หลังฉากละกัน เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยจะถนัดเอาซะเลย.....
ในที่สุดก็ปิดงานวันแรก ได้ของกลับบ้าน Uglydoll สามตัว เป็นของฝาก จากนั้นก็แวะกินข้าว และเดินกลับ
ที่พักกันอย่างเหนื่อยอ่อน
................................................................................................................................................................. 
Day 3&4 @ Singapore.
Singapore Toy games & comic convention 2009. (Part 2)
วันที่ 14 สิงหาคม 2009 วันที่สาม วันจริงของการขายของและการแสดงงานเพราะจะเป็นรอบเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้า เที่ยวชมงาน ได้แล้ว หนักแน่ๆ ตามไปดู กันต่อเลย ว่าจะสนุกแค่ไหน วันนี้เริ่มด้วยการตื่นตั้งแต่ 9:00 ออกจากโรงแรมประมาณ 10:00 นัดกันว่าก่อนไปที่ Hall เราจะแวะ เที่ยวกันที่ Mint Museum. เดินๆๆๆ จุดแรกถึงที่ Art Museum แวะถ่ายรูปบริเวณรอบๆ ก่อน แต่ไม่ได้เข้าไปเพราะอยากไป Mint มากกว่า เป็น พิพิธภัณฑ์์ ที่รวบรวมของเล่านเก่าไว้มากมาย

ถึง Mint แล้วเราก็ทำการจ่ายเงิน ค่าเข้าชม คนละ 11$ แบบมีส่วนลดแล้ว Mint มีทั้งหมดสี่ชั้น มีของเล่นสะสม ของในอดีตมีเป็นพวกคาแรกเตอร์ และ เป็นตุ๊กตาผ้าโบราณ เป็นชุดเป็นซีรี่ย์ และอื่นๆ มากมาย
เก็บภาพมาฝากบางส่วน เพราะถ่ายมาเยอะมากจนไม่สามารถอัพโหลดขึ้นเวบได้หมด แต่ว่างๆ จะไป
รีบอัพขึ้น Flickr ภาพใหญ่กว่านี้ ตามไปดูกันเลย

เดินๆๆๆ ถ่ายๆ มีแต่ของเล่นน่ารัก แปลกๆ ทั้งเคยเห็นในไทยและไม่เคยเห็นเยอะแยะมากมาย สีสันสดใส
และทึ่งในความพยายามผลิตของเล่นให้ดูทันสมัยในแต่ละยุคนั้นๆ สุดยอด ทำไปได้ ประทับใจๆๆ
และสุดท้ายก็สิ้นสุดการเดินเที่ยวชม Mint ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พร้อมกับอุดหนุนของที่ระลึกเล็กน้อย เป็น
เข็มกลัดของ Mint คนละอันในที่สุดก็มาเปิดบูธกันตอนบ่ายสอง ฮ่าฮ่าฮ่า เที่ยวก่อนแล้วค่อยทำงานช่าง
เป็น Concept ที่ดีจริงๆ อิอิอิ เริ่มๆๆๆๆ

เปิดบูธยังไม่ทันไรก็มีคาแรกเตอร์ต่างๆ เดินผ่านหน้าบูธก็เลยต้องให้นางแบบประจำบูธได้ถ่ายรูปคู่ไป
พลางๆ ระหว่างรอลูกค้างานการเหมือนจะไม่ค่อยได้ทำกันเท่าไหร่ เอาแต่เดินเที่ยวเล่นกับถ่ายรูป อีกซัก
พักก็เริ่มออกเดินร่อนไปดูของบูธอื่นอีกแล้วสิเรา

ก่อนออกไปร่อน ก็มีลูกค้า (เพื่อนศิลปินจาก Indonesia) วิลลี่ เค จาก Red slave มาอุดหนุนสินค้าและพูด
คุยเรื่องงานกันเล็กน้อย จากนั้นเราก็ไปที่บูธของ Tokidoki ซึ่งกำลังแจกลายเซ็นอยู่ เราก็ฝากสติกเกอร์ที่
ซื้อมา ฝากวิลลี่ขอลายเซ็น ให้เพราะเราไม่ได้จองคิวเล่นเส้นสายกันสุดๆ อิอิอิ แต่ในที่สุดก็ได้มา เอาหละๆ
วันนี้ก็เที่ยวและขายของกันมาทั้งวันลูกค้าล้นหลามยุ่งมากจนไม่ได้ถ่ายภาพเลย สุดท้ายก็ได้เวลากินอีก
แล้ว วันนี้เพื่อนที่ใจดีของเรา (เป็นลูกค้าที่อยู่สิงคโปร์ นัดคุยงานกัน เค้าเลยอาสาพาเที่ยวชมเมืองและ
พาไปกินรอบดึกๆๆ ออกจากงาน21.00 พอดิบพอดี ได้เวลาเที่ยวอีกแล้วหรือนี่ มื้อดึกคืนนี้ไปลอง
บักกุ๊ดเต๊ แบบ ออริจินอล ของสิงคโปร์ จีนแท้ๆ

ร้านนี้ไม่ใช่ร้านที่ดังและฮอตฮิตที่สุดแต่อยู่ในย่านเดียวกันกับร้านชื่อ ดัง แต่ผ่านร้านชื่อดังมาคิวยาวมาก
เกรงว่าคืนนี้จะไม่ได้กิน เลยบอกเพื่อนว่า ร้านข้างๆก็ได้ แล้วถามว่ามันต่างกันไหม เพื่อนบอกร้านดังกับ
ร้านนี้ไม่มีความแตกต่างแต่ก็นะ อร่อยต่าง หรือไม่ต่างก็ไม่รู้แต่ตอนนี้ สี่ทุ่มแล้ว หิวมาก ขอหม่ำก่อนหละ
อืมมมมม......อร่อยยยยยมาก เผ็ดร้อนพริกไทยในน้ำซุป ซี่โครงหมูมากๆๆ หอมมมร้อนๆกินกับปาท่องโก๋
ด้วย อร่อยจังเ้ลย !! กินไปเหงื่อก็หยดไปด้วยความเผ็ดของพริกไทย อ่อ ร้านนี้เค้าจะคอย เดินมาเติม น้ำ
ซุปบักกุ๊ตเต๊ตลอดเวลาเลยอะ ดีจริงๆ

พอเราเติมบักกุ๊ตเต๊จนเต็มท้องแล้วเรี่ยวแรงก็มาอีกครั้ง คราวนี้เพื่อนอาสาขับรถพาไปเที่ยวเกาะเซนโตซ่า
ฮ่าๆๆ เซนโตซ่า  ยามค่ำคืนจะเป็นไงน้อ ตามไปดูกันต่อเลยถ้ายังไม่เหนื่อย

มาถึงเกาะเซนโตซ่า เรียบร้อย ถึงกับแปลกใน โอ้ว ดึกแล้วไฟประดับสวยงามไม่มีการปิดแต่อย่างใด
อีเดน(เพื่อนสิงคโปร์ ) บอกว่าที่นี่เปิด 24 ชั่วโมงเลย แต่สถานบริการร้านค้าต่างๆจะปิด แต่สวนหรือร้าน
บางร้านบนเกาะก็ยังคงเปิดไปเรื่อยๆ เพราะก็มี นักท่องเที่ยวอย่างเราๆมาตลอกเวลา ขอบอกว่า
บรรยากาศ ตอนกลางคืนดีมาก เงียบ และแสงไฟสวยมาก

เดินขึ้นไปบนปราสาทที่เปลี่ยนสีได้ ก็จะเจอกับทางเดินของ เมอร์ไลออน (Merlion walk) เราก็เดินๆๆๆขึ้น
ไปจนเจอเมอร์ไลออนตัวโตสีม่วง ใหญ่มากๆๆ ตัวนี้เป็นตัวลูก ซึ่งตัวแม่จริงๆ จะตัวเล็กๆ อยู่อีกที่นึงซึ่งเรา
มีแผนจะไปกันวันสุดท้าย หลังจากเดินๆไป ดูเจ้าสิงโตน้ำแล้ว เราก็เดินไปที่ชายหาด แต่ถ่ายรูปมาไม่ได้
เพราะมืดมากแถมไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป ได้แต่เก็บแสงของ Bar ริมชายหาดมาแทน ตอนนี้ก็ราวๆเที่ยง
คืนได้เวลากลับกันซักที ตอนเดินกลับเราก็ได้พบกับฝาแฝดคู่นึง ฮามากกกกน้อง

ระหว่างทางกลับจากเซนโตซ่าเข้าเมือง อีเดนก็พาไปจุดชมเมืองตอนกลางคืนอีกที่นึงเป็นที่ขึ้นกระเช้าที่จะ
ไปเกาะเซน โตซ่า เรียกว่า Mt Faber Loop เป็นภูเขาไม่สูงมากเป็นสถานนีปล่อยเคเบิลคาร์ และจุดชมวิว
สวยมากอีกเหมือนกัน
คืนนี้กินอิ่ม ชมวิวสวย ทำงานหนัก เรียบร้อยไปอีกหนึ่งวัน สนุกจริงๆเลย เฮอะๆๆๆ คุ้มๆ

• วันที่ 15 สิงหาคม 2009 วันที่สี่ของการ work&Travel ในสิงคโปร์
วันนี้ไปเปิดบูธเร็วขึ้นกว่าเมื่อวานเพราะ วันนี้เป็นวันเสาร์ คนคงจะเยอะกว่าวันศุกร์ ก็จริงอย่างที่คิดไว้
คนเยอะจนแทบไม่มีเวลาออกไปเดินเล่นถ่ายรูปเลย เก็บภาพมาได้นิดๆหน่อย ที่ขาดเหลือจากวันแรกๆ
ปล่อยให้น้องเฝ้าบูธและทำหน้าที่ขายของอย่างจริงจังส่วนเราก็ออกเดินไปชิวๆ เหมือนเดิม

บรรยกาศของงานก็เปลี่ยนไปจากวันแรกๆ ศิลปินจะนั่งวาดรูปขายบ้าง โชว์บ้าง วาดแลกกันบ้าง รวมทั้ง
วาดสดและแปะขายกันสดๆ และภาพล่างสุดด้านขวา ก็จะมีบรรดาวันรุ่นที่เล่นตุ๊กตา ตกแต่งอย่างสวยหรู
เอามาวางอวดโฉมให้คนทั่วไปได้ถ่ายรูป สวยมากจริงๆ

เดินเที่ยวอยู่ซักพักก็กลับบูทมาเจอกับเจ้าหุ่นหระป๋องจากสตาร์วอร์เดินมา ก็ขอถ่ายรูปกับคนดังซะหน่อย
เป็นที่ระลึก รวมทั้งเจอตัว David Horvath คนออกแบบ Ugly doll ก็เลยขอซักรูปพร้อมกับตุ๊กตาที่เค้าเซ็น
ชื่อให้ สองตัว อิอิอิ

แล้วยามค่ำคืนก็มาเยือน ขายของแป๊บๆ ก็หมดเวลา ได้เวลาออกท่องราตรีกันอีกคืนโดยมีเพื่อนคนเดิม
พาเที่ยวอีกเช่นเคย วันนี้ อีเดนอาสาขับรถพาไปเที่ยว EAST COAST พาไปกินอาหารท้องถิ่น ริม
ชายหาดของเกาะสิงคโปร์ อยากจะเล่า ว่าตอนนั้นเป็นเวลาสี่ทุ่ม คนที่ EAST COAST เยอะมากๆๆๆ
เหมือนว่าคนที่นั่นไม่หลับไม่นอนกันเลยอะ งง
เอาหละเมื่อได้ที่จอดรถซึ่งหายากมากต้องโชคดีจริงๆถึงจะได้ที่จอด เราก็เริ่มเดินเข้าไปยังโซนอาหาร
ถึงกับตะลึง นี่มันสี่ห้าทุ่ม จริงหรือ ทำไมคนเยอะแบบนี้ ยิ่งกว่าเยาวราชบ้านเราอีกนะ คนยังดูคึกคัก ร้าน
อาหารก็ยังเปิดขายกันอย่างอึกทึก พอเราได้ที่นั่ง อีเดนก็บอกให้เราไปเดินดูอาหารที่อยากจะกินแล้วบอก
เค้าว่าอยากจะกินอะไร เค้าจะสั่งให้ เพราะเราไม่สามารถจะสั่งได้เพราะชื่ออาหารยากมาก และไม่รู้ว่ามัน
คืออะไรด้วย สุดท้ายก็ได้มา 6-7 รายการโดยมีอีเดนคนในพื้นที่แนะนำและสั่งให้ เริ่มด้วยน้ำเขียวๆ ที่มา
จากอ้อยหวานๆแต่มีมะนาวใส่ลงไป รสชาติแปลกๆเหมือนจะเข้ากันแต่ว่าไม่เข้าอะ แปลก แต่เป็นน้ำ
ที่เหมือนทุกโต๊ะต้องสั่งมาดื่ม ต่อไปก็เป็นเมนูธรรมดา สะเต๊ะ สั่ง ไก่ กับ เนื้อ เพราะแขกมาเลขายเค้าไม่
กินหมูกันภาพต่อจากน้ำเขียวๆ เรียกว่าอะไรจำไม่ได้ชื่อแปลกๆ แต่เป็นของกินเล่น เหมือนมะม่วงน้ำปลา
หวานรสชาติจางๆ มี ผลไม้มะม่วงมัน สัปปะรด แตงกวา มันแกว และปาท่องโ๋ก๋ แถมโรยถั่ว แปลกจริง
เชียวเมนูนี้ ส่วนอาหารเส้นๆก็รสชาติอออกไปทาง หมี่ผัด กับ ผัดซีอิ้วบ้านเราแต่ไม่มีเครื่องปรุงแถมน้ำมัน
เยอะ เลยออกเลี่ยนๆ และ สองเมนูสุดท้ายก็คือปลาราดพริก กับ ห่อหมกห่อหมกนี่รสชาติเหมือนบ้านเรา
เลย เผ็ดอร่อยดี อิ่ม อิ่ม อิ่มๆ แล้วก็เริ่มง่วง เพราะกินเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน แต่อีเดนก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตา
พาเราเที่ยวต่อ เอา สู้ต่อไปเรา

เดินออกมาจากโซนอาหารซักนิดหน่อยก็พบกับ ที่เล่นกีฬาทางน้ำของคนสิงคโปร์ โฮ่ ตะลึงไปเลย
ดึกขนาดนี้ยังเปรี้ยวเล่นกันสบายๆ
เอาหละคราวนี้เราก็ออกเดินต่อ เหนื่อยมาก แต่ก็สู้ๆเพราะอีเดนอุตส่าห์ตั้งใจพาเที่ยวก็ต้องฮึดสู้ เดินไปยัง
สะพานตกปลา BEDOK คนที่นี่เค้าชอบตกปลากับตั้งแคมป์กับริมชายหาดในวันเสาร์อาทิตย์ ระหว่างทาง
เดินเราก็เห็นกลุ่มคนจัดปาร์ตี้ วิ่งเล่น และกางเต้นท์นอนกันอย่างสบายใจ ไม่กลัวโจรกลัวอะไรกันเลย
แสดงให้เห็นถึงว่าบ้านเมืองเค้าปลอดภัยมาก อย่างไม่น่าเชื่อ มีกางเต้นท์ตกปลากันบนสะพานด้วยนะ
แปลกตาจริงๆ เอาหละเมื่อเราเดินกลับจากสะพานตกปลาที่เดินไกลพอสมควร ก็คิดว่าคง จะได้กลับที่พัก
ซักทีแต่ที่ไหนได้ อีเดนคนดีก็พาเราไปต่อที่ เขื่อนของสิงคโปร์ จุดชมวิวที่ใหม่ ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคย
เห็นไม่มีรถเมล์ไปถึงจะต้องเป็นคนมีรถเท่านั้นที่ได้ไป เอ๊า ไปก็ไป ตีหนึ่งแล้วตอนนี้ พระจ้าววว พรุ่งนี้เรา
ต้องขายของกันอีกนะ T-T สนุกก็สนุก เหนื่อยก็เหนื่อย
และที่เที่ยวสุดท้ายของค่ำคืนนี้คือเขื่อนสร้างใหม่ ที่กั้นน้ำเค็มไว้และนำน้ำเค็มไปผ่านกระบวนการเพื่อไว้
ทำน้ำจืดไว้ให้สำหรับ คนสิงคโปร์ใช้กัน เป็นเขื่อนที่ทันสมัยและสวยงามมากเพราะมองจากเขื่อนไปก็จะ
เห็นวิวเมืองสิงค โปในอีกแบบนึง ต่างจากคืนก่อนที่เราไปดูกันที่ เซนโตซ่า ประทับใจมากถึงจะเหนื่อยแต่
ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเช่นกัน ขอบคุณมาก Eden ลูกค้าผู้น่ารักของ Stu. Thank you Eden (^-^)

Day 5&6 @ Singapore.
Singapore Toy games & comic convention 2009. (Part 3)
• 16 สิงหาคม 2009 วันสุดท้ายของการขายของและโชว์งานแล้ว คืนนี้ก็ต้องเก็บงานและเตรียมเก็บของ
กลับบ้านกันแล้ว เร็วจังเลย แต่ก็ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องกลับไปดำเนินชิวิตที่เป็นปกติต่อไป เริ่มกันต่อเลยว่า
วันนี้จะมีอะไรบ้าง
เช้าของวันสุดท้ายก่อนปิดงานในคืนนี้ เพื่อนๆจากหลายๆบูทก็ทะยอยกันมาขอให้วาดภาพให้ วาดๆๆอยู่
เกือบทั้งวัน สนุกดีแต่ปกติไม่ค่อยวาดสดเท่าไหร่ คงต้องกลับมาฝึกอีกเยอะเพื่องานหน้าจะได้วาดคล่องๆ
หน่อย วาดไปก็มีคนขอถ่ายรูปด้วยตลอดเวลา เราก็ขอเก็บภาพประทับใจกับเค้าด้วยเหมือนกัน

ภาพแรกเป็นภาพถ่ายที่อัยกำลังวาดรูปให้กับ Willie Kay (Red Slave) และถ่ายรูปคู่กันไว้เป็นที่ระลึก
ภาพต่อมา ก็เป็น หญิงสาวทีมงานจากบูธ ToFu แถวที่สองรูปแรกก็คือ Wrecker Tike เพื่อนจาก Mojizu
ถ้าใครเคยเล่นน่าจะจำงานเค้าได้ ดีใจที่ได้เจอเพื่อนในโมจิตัวจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า โลกเรานี่มันชั่งอัศจรรย์จริงๆ
ไกลกันแค่ไหน แต่มันก็เหมือนใกล้เมื่อเราเริ่มออกเดินทางแล้วก็ได้เจอ........ ส่วนรูปต่อมาก็เป็นเพื่อนบูธ
ฝั่งตรงข้าม งานน่ารักมาก ส่วนรูปสุดท้ายก็เป็นลูกค้าและพี่สาวของบูธถัดๆไปมาอุดหนุนสินค้าที่บูธเรา
ทุกวันเลย วันละนิดละหน่อย น่ารักมาก แวะทักกันทุกวัน

เอาหละนั่งวาดรูปถ่ายรูป ขายของก็ได้เวลาเก็บบูธแล้ว ถึงเวลาต้องร่ำลา

เก็บของไป ถ่ายรูปไป ด้วยความเพลิดเพลิน ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดี ๆ ในต่างแดน กับการเดินทางครั้งแรกของ Studioaiko
http://www.singaporetgcc.com/artistalley.html
และภาพสุดท้ายใน Suntec : STGCC2009 BYE BYE......

ถ่ายรูปเสร็จก็ดึกแล้ว กลับโรงแรมพักผ่อนเพื่อเตรียมเดินทางกลับ กรุงเทพในวันพรุ่งนี้ แต่อย่าคิดว่าพรุ่งนี้
ไม่มีเที่ยวต่อนะ อิอิอิพรุ่งนี้แหละคือวันที่จะได้เที่ยวสิงคโปร์ทิ้งท้ายก่อนกลับบ้าน จุดหมายต่อไปคือ
Singapore Flyer และ Merlion เจอกันพรุ่งนี้

• วันที่ 17 สิงหาคม 2009 การเดินทางท่องเที่ยววันสุดท้ายในสิงคโปร์ Singapore Flyer!!!

ถ่ายรูปวิวสวยๆกันในตู้กระจกห้องแอร์ อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เพลิดเพลินกับวิวสวยๆ กลัวความสูงแต่
คราวนี้ไม่กลัวแฮะคงเพราะไม่มีความรู้สึกเหวี่ยงๆ เพราะห้องกลมๆแข็งแรงมากๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะ มองลง
ไปที่พื้นด้านล่างเท่าไหร่ เสียวๆแต่สนุกจนลืม
ภาพวิวที่มองมาจาก Singapore Flyer

แล้วพวกเราก็เดินทางจาก Singapore Flyer ไปยัง Merlion ที่เห็นตัวเล็กๆจากด้านบน เดิน เดินๆ ทาม
กลางแดดจ้า
ถ่ายรูปเล่นกันอยู่ที่ Merlion Park สักพัก ก็ทนแสงแดดจ้าไม่ไหว ก็รีบถอนทัพ เตรียมตัวกลับกรุงเทพ
บ๊ายบายสิงคโปร์
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปสนามบิน เราก็ต้องขอเสียเงินเสียทองก่อนที่จะออกจากประเทศสิงคโปร์ โดน
Onitsuka Tiger ดูทรัพย์จากความเหน็ดเหนื่อยมาสี่ห้าวันไปเกือบหมดตูด ค่าแรงของการมาเปิดบูธทำงาน
ครั้งนี้ กลายเป็นกระเป๋ากับรองเท้าซะงั้น กลับมาราได้เท่าทุน แต่ได้ประสบการณ์และความประทับใจเพียบ
Studioaiko work & Travel ครั้งที่ 1 ก็ขออำลาแต่เพียงเท่านี้จ้า
- THE END -



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น