CE Final Battle!!!

14.09.2010

เอาหละๆ วันนี้มีเรื่องสนุกมาเล่าให้อ่านกันคะ  หลังจากผ่านพ้นมาหนึ่งอาทิตย์ ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่
ชีวิตก็กลับสู้โหมดปกติ ก็ได้เวลามานั่งเล่าย้อนถึงงานวันแข่งขันการเพ้นท์ (Paint) และ Custom ตัวหุ่น
CE ที่ต้องทำงานกันเป็นทีม (ทีมหนึ่ง มีกันสองคน  S.Aiko(Thailand) + Patricio Oliver (Argentina))
และต้องแข่งขั้นกับทีมอื่นๆ อีก สี่ทีม ที่ศิลปินไทยร่วมทำงานกับศิลปินต่างชาติ 

โจทย์การ แข่งขัน :  Love&Friendship (มาอีกแล้วโจทย์แบบนี้ เซ็ง 555)  ให้เพ้นท์ตุ๊กตา CE ขนาด
10 นิ้วคนละ 1 ตัว รวมเป็น 2 ตัวต่อทีม ,  ผลิตภัณฑ์ อีกจำนวนหนึ่ง(แล้วแต่ผู้แข่งขันจะสรรหากันมาเอง)

รวมเป็น ตุ๊กตา 2 ตัว และ ของที่หามาทำเป็น สินค้า ต่อยอดจากงานเพ้นท์ตุ๊กตาเพื่อให้เข้าชุด

ถามถึงการแข่งขันในครั้งนี้  ส่วนตัว มันคือการแข่งที่ต้องเอาชนะตัวเอง ที่จะต้อง มีความรับผิดชอบต่อ
ผลงาน และ เพื่อนร่วมทีม คือพยายามตื่นเช้ากว่าปกติ และนอนดึก(เช้า)  เพื่อทำงานชิ้นนึงให้เสร็จทัน
เวลาส่ง ซึ่งมันเหนื่อยมากกกก เหนื่อยเพื่อให้งานเสร็จ  ก็ทำๆ ไปด้วยความเคยชิน และ ทักษะที่มี ก็เอา
ลงไปยำๆ  แต่ยังไม่ได้ละเมียดละมัยทำให้สวยงาม หรือ การใช้ความคิดหรือจินตนาการลงไปกับผลงาน
ชิ้นนี้ ก็ไม่ค่อยจะได้ทำลงไปซักเท่าไหร่ เพราะด้วยความฉุกระหุก ความกระชั้นของเวลาในการเตรียม
งาน หรือแม้กระทั่งการพูดคุยหรือระดมความคิดกับคู่ทำงาน (แทบจะไม่มี) แต่เราก็ทำกันอย่างเต็มที่
เท่าที่เวลาจะอำอวย ให้เสร็จไปอย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาหนึ่ง แม้ไม่มีเวลาในการแก้ไข ปรับปรุงผลงาน
ให้ดีที่สุด ครั้งนี้ ก็ขอให้ทำงานเสร็จและผ่านไป 555  ผลจะเป็นอย่างไรก็ชั่งมันเถอะ แค่เสร็จทันก็บุญแล้ว

พูดถึงความประทับใจกับกิจกรรมการแข่งขั้นครั้งนี้คือ เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างคู่ทำงาน
กระบวนการคิด ขั้นตอนการทำงาน และเราได้แชร์ประสบการณ์และเทคนิกบางอย่างซึ่งกันและกัน

และเราสองคนได้ทำงานออกมาจนเสร็จตามที่เราคิดไว้ ได้ออกมาค่อนข้างสมบูรณ์ในระยะเวลาที่
จำกัดนั่นคือความประทับใจ

Concept: ของการทำงานในครั้งนี้ เริ่มจากการตีโจทย์ Friendship ---> Friend ship ง่ายมากแบบขำๆ
เรือ เพื่อน 555 จริงๆมันก็คือมิตรภาพ แต่ยังไงเมื่อทำงานด้วยกันแล้วมิตรภาพมันก็เกิดขึ้นเองระหว่าง
การทำงาน การพูดคุย ดังนั้น ผลงานเน้นสนุก สีสันสดใสเอาไว้ก่อน เริ่มจาก เรือ และ เพื่อน  และ เพื่อน
ที่อยู่ในเรือ สื่อถึงการเดินทางไกลจาก อาเจน สู่ไทย เราก็จับมาเป็นลูกเล่นเล็กๆประกอบลงในงานคือให้
ตัว  CE  ที่ให้ชื่อว่า " The P. Aiko" = The Pirate Aiko   จูงเรือที่มีตัว character ของ  PO ที่เคยออก
แบบมานั่งอยู่ในเรือที่ปักธง อาเจนตินา เป็นสัญลักษณ์ของการพบกัน ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ
เช่น นกพิราบ สื่อถึงกรุงเทพสถานที่จัดแข่งครั้งนี้  (นกพิราบแห่งเสรีภาพ) ความหมายดี เลยเอามาเป็น
สัญลักษณ์เล็กประกอบในตัวคาร์แกรเตอร์ของเรา  พูดถึงสี สีฟ้าแทนมิตรภาพ สีแดง แสดงถึงความรัก
แต่แน่นอน อัยยังไม่เคยลืมความเป็นตัวตนของคนออกแบบนั่นคือกะโหลกและความสนุกสนาน หน้า
กวนๆ บนงาน ทั้งหมดก็ร่างแบบออกมาได้ตามภาพข้างล่างนี้ กับคาแรกเตอร์ในคราบของสลัดน้อยกับ
เพื่อนต่างแดน

เก็บรูปมาฝากมากมาย รูปบรรยากาศตอนแข่ง และการทำงาน  ไปดูกันเถอะ

 เริ่มกันที่ภาพแรกภาพงานที่ออกแบบ ทำการแยกช้ินส่วนเพื่อสะดวกและรวดเร็วในการทำงาน เตรียมปรินท์ไปทำต่อ

พบปะคู่รวมทำงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียต่างๆกัน ทั้งงานเพ้นท์ และ งานกราฟิกสำหรับ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ

นี่คือคอก (Partition Booth) ที่กันสำหรับคนทำงาน และเปิดโล่งๆ สำหรับคนแวะเวียนมาพูดคุย ถามไถ่ขณะทำงาน

อัยโกะมีการหยิบยืมสีจากบูธข้างๆ อีกด้วย และขอโต๊ะทำงานเพิ่ม ถึงจะขอโต๊ะเพิ่ม แต่ทุกคนก็ยังจะกรูมานั่งกระจุกรวมกันอยู่ดี

มีการแวะเวียนของเพื่อนผู้เข้าแข่งขันกลุ่มอื่น เดินชิวกันไปมาขวักไขว่  สมาธิการทำงานหลุดเป็นช่วงๆ

สมาธิหลุดแค่ไหน ก็ต้องกลับมานั่งตั้งใจทำงานต่อ เพราะไม่งั้นมันไม่เสร็จแน่ๆ เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ

ภาพของการเพ้นท์ในแต่ละชิ้นส่วน ที่พอจะมีเวลาถ่ายรวบรวมมาได้อย่างคร่าวๆ ที่สุด ระบายสีกันไปทีละชิ้น ทีละชิ้นๆ จนเช้า

ทำกันต่อเนื่องอย่างไม่หยุดพัก 555  (อันนี้โม้) แหม่ คนเราก็ต้องพักบ้างอะไรบ้าง กลับมาสายๆของวันเสาร์
เราก็ทำกันต่อในส่วน ขอรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เก็บๆ กันไป

แวะพักถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เข้ามาพูดคุยกันตลอดเวลาของช่วงการทำงาน  ทำให้ไม่ง่วง  555

แหมะพี่!!  จะโคลสสอัพกันใกล้ไปถึงไหน  อัยก็เกร็งแอคท่า ซะเมื่อยมือเลย (สรุปพี่แกถ่ายนกเล็กๆ ไม่ได้ถ่ายคน)

ขอให้สังเกตุให้ดีว่าพื้นที่ว่างบนโต๊ะทำงานของเรานั้น ไม่มีเลยจริงๆ แน่นเอียด เต็มไปด้วยขวดน้ำล้างพู่กัน สี และ ของกิน

P.O.  ติดตั้งพูม่า ( PUMA) น้อยอย่างตั้งอกตั้งใจ

และอัยก็ง่วนอยู่กัยการทำ Wristband สีธงชาติสำหรับติดแขนตุ๊กตาอย่างตั้งใจ ว่าแต่โป คิดอะไรอยู่เหรอ??

ของกระจุ๊กกระจิ๊กเต็มโต๊ะเลย  ว่าแต่เจ้านกน้อยของอัย เป็นที่ต้องการของใครหลายๆคนที่ผ่านไปมา ต้องระวังให้ดี อิอิอิ

และในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์จนได้ กับการ Paint & Custom CE toy ตัวเต็ม พร้อมเหล่าโปรดักส์ พวงกุญแจ, T-shirt , Bag ,
Hang tag , and Packaging ที่ทำกันสองวันเต็มกับอีกครึ่งวันเช้าก่อนช่วงเวลาตัดสินในวันอาทิตย์

จัดเก็บสถานที่ จัดชั้นโชว์ให้เรียบร้อย แล้วก็รอคณะกรรมการ

คณะกรรมการ 2 ท่านก็เข้ามาในบูธ พร้อมฟังการพรีเซนท์ 2 นาที (Cool) สามวันเพื่อสองนาที แจ่มใจ 555

ระหว่างรอการประกาศคำตัดสินก็ถ่ายรูป กับเพื่อนๆศิลปินไทยที่เข้าร่วมแข่งกันในครั้งนี้

โฉมหน้าผู้ชนะเลิศทั้งสอง ซ้ายมือ เคนจิ จาก มาเลเซีย  และ ตั้ม แห่ง  MAMAFAKA ไทยแลนน์
ยินดีกับทั้งสองคนด้วย!!

ผลงานของแชมป์ทั้งสอง เท่ห์ๆ สีสดใส กับกล่องช้าง  ชอบผลงานของเคนจิ(ตัวซ้าย) เป็นพิเศษตรงพื้นผิวที่เป็นหนามๆและ
ความคิดฉีกๆ ที่หันหัวด้านหลังมาเป็นด้านหน้า เท่ห์มากกกกกกเคนจิ 555 สมแระที่ได้แชมป์

เราไปดูงานของศิลปินอีกสามกันกันเถอะว่าเค้าทำออกมาเป็นยังไงกันบ้าง
หลังจากที่มีว่างแล้วก็พึ่งจะมีเวลาเดินเล่นถ่ายรูปรีวิวกับเค้าบ้าง

บูธข้างๆ แมว แมว และนางรำ คนไทยทำแมว ฝรั่งทำนางรำ อิอิ น่ารักดีนะ

 แล้วก็ไไปแชะต่อที่บูธของ Nokhook จากเชียงใหม่ และ  Jon-Paul Kaiser. งานเท่ห์แนวๆ ขาวกับดำและทอง เก๋ๆๆมาก

นี่คือผลงานของบูธไซโล และ Igor แนวยอดมนุษย์ ฮิฮิ แปลกดี ของ  Igor ที่เอาตาไปไว้ด้านบนแล้วส่วนที่เจาะวาดปากกับจมูก
เหมือนกับใส่หน้ากากจริงๆ ชอบบบบ

และสุดท้าย ก็แวะมาถ่ายผลงานของบูธตัวเอง ในตีมของโจรสลัด-กะทหารเรือ???  5555
ในที่สุดการแข่งขันก็เสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจากกันไปก็มีกิจกรรมถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก

ภาพถ่ายรวมศิลปินทั้ง 10 คน เริ่มจากซ้าย S.aiko (studioaiko) , Patricio Oliver(P.O.) , Jon-Paul Kaiser , Nokhook ,
Igor , Kenji chai, Tum Mamafaka  แถวล่าง ซ้าย Artisit Six , Zam Art , Zylostudio


แล้วก็แล้วเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปคู่ นู่น นี่ นั่น...ก่อนแพคของกลับบ้าน

        Igor and Patricio doodle on Skutter for S.aiko( Litlle bear paper toy by studioaiko) 

Kenji Kenji  with studioaiko Badges and doodle somhing on paper toy

 

และ สุดท้ายยก็ให้ Andy แห่ง Toys Revil เซ็นต์ให้บนตัวตุ๊กตากระดาษ และ อัยเซ็นต์การ์ดให้ PO!

Special Thank : น้องกิฟท-น้องปานที่มาช่วยกันขายของเฝ้าบูธ , J.Monster & P'Tum สำหรับภาพถ่ายสวยๆ และอาหารการกิน

เย้เย้ บายบาย แล้วพบกันใหม่งานหน้าจ้าาาา

Studioaiko in CLEA2010

03-05.09.2010

       เมื่อวันที่ 3-5 กันยายน ที่ผ่านมา สตูได้มีโอกาสไปเข้าร่วมเปิดบูธโชว์ผลงานและขายสินค้าในงาน
ของ CLEA2010 ณ พารากอนฮอล์ งานภายในก็มีตีมกิจกรรมที่ดีอยู่หรอก แต่เนื่องจากด้านหน้าพรีเซนท์
ความเป็นราชการกึ่ง OTOP มากไปหน่อย (-.-) จำนวนคนเข้างานเลยน้อย ถึงน้อยมาก ทำให้งานกิจกรรมที่น่าสนใจที่อยู่ด้านในๆ ถึงกับชิวและชิวมาก  น่าเสียดายกิจกรรมดีๆ ที่มีคนรับรู้น้อย แต่ก็เอาเถอะ  เก็บ
ภาพมากฝากแบบชิวๆ ตามภาพลักษณ์ของงานมาฝากคะ  (="=)

ถึงคนในงานจะน้อยไม่เต็มฮอ]ล์ แต่ บูธสตูดิโออัยโกะ ก็มีคนมาแวะเวียน ทักทาย จับจ่ายซื้อของกันเป็น
ระยะ ไม่ถึงกับนั่งรากงอก 555 ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่แวะเวียนกันเข้ามาทักทาย ขอบคุณจากใจค่า ^v^ แล้วเจอกันงานหน้า (แต่คงจะอีกนาน เพราะ ตอนนี้กำลังซุ่ม ทำอะไรซักอย่าง  แล้วเจอกันใหม่โอากาสหน้าคะ)

       ตุ๊กตาใหม่ๆ ที่นำไปเปิดตัวงาน CLEA2010        กรีฟและปาน เด็กน้อยเฝ้าบูธ ขอบใจจ้าที่มาช่วย

    พี่ใหญ่แวะมาเที่ยว มาร่าเริ่งวาดรูปเล่นเป็นที่ระลึก       และถ่ายภาพหมู่กองกำลังสตูดิโออัยโกะ

  งานเงียบบบบบบ.......คนน้อย.............แต่ก็ยังมีคนเดินแวะเวียนมาอุดหนุนสินค้ากันอยู่บ้างประปราย

   ลูกศิษย์ ม.กรุงเทพแวะมาขายเสื้อคณะ ฮึฮึ           และ ก็คุณแอน MTV ก็แวะมาทักทายด้วยเหมือนกัน

เอาหละ หมดกิจกรรมออกงานของปีนี้  ต้นปียันท้ายปี เหนื่อยและหนักพอสมควร ฟู่! แต่ก่อนจะหมดปี 2010ไปนั้น สตูยังต้องไปงาน STGCC'2010  ที่สิงคโปร์ กันอีกในวันที่ 12-14 ธันวาคม คงจะเป็นงานสุดท้าย ของปีเสือนี้  เป็นการทิ้งท้ายก่อนจะขึ้นปีใหม่  แล้วจะเก็บประสบการณ์สนุกๆมาเล่าสู่กันฟังเรื่อยๆนะคะ

CE Painted. from start to the end.

9.09.2010

       หลังจากหายหน้าหายตาจากการอัพเดทเวบไซด์ Studioaiko.com เป็นเวลานานพอสมควร ก็เนื่องมาจากกิจกรรมต่างๆ เช่น เปิดบูธจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ + ผลิตสินค้าส่งห้าง อีกทั้งงานราช และ งานหลวงอีกมากมาย O-o จึงทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาอัพเดทผลงานต่างๆ ที่ได้ทำผ่านมา แต่ช่วงนี้เริ่มมีชีวิตที่ผ่อนคลายจากการกรำงานหนัก จนได้ฤกษ์งามยามดี มาอัพเดทโชว์ผลงานที่ได้ทำผ่านๆมาให้กับมิตรรักทั้งหลายได้ติดตามกันต่อ 
       กลับมาคราวนี้มีผลงาน ที่ไม่ค่อยจะได้ทำกันบ่อยๆ มาให้ดู นอกจากจะวาดรูป เย็บตุ๊กตา ที่ทำเป็น
ประจำแล้ว การเพ้นท์สดบนตัวฟิกเกอร์ ถือว่าเป็นงานใหม่ที่อัยไม่ค่อยจะถนัดนัก (^-^) แต่เนื่องด้วย กิจกรรมงาน CLEA2010 ที่ไปเข้าร่วม ได้จัดชุดใหญ่มาให้ คือให้ศิลปินที่ผ่านเข้ารอบการส่งแบบกราฟฟิก 100 คนคนไทย 50 คน ต่าง ชาติอีก50 คน ต้องรับภาระนำฟิกเกอร์  CE ตัวขนาด 10 นิ้ว กลับมาเพ้นท์ ตามแบบที่ได้ออกแบบส่งเข้าประกวดไปซึ่งจะดีใจที่ได้เข้ารอบดี หรือ จะทุกข์ใจดีที่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งในการเพ้นท์เจ้าฟิกเกอร์ขนาด 10 นิ้ว ให้เสร็จภายในสองอาทิตย์ (-..-") ฮึฮึๆ แต่ไหนๆ ก็ไปรับ มาเองกับมือ โดยที่ไม่รู้ชะตากรรมแล้ว ก็คงจะต้องทำงานชิ้นให้เสร็จสิ้นไป มาดูกันนะคะว่า วิธีการ ขั้นตอนการ Paint เจ้าตัว CEที่อัยออกแบบจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง จะเหมือนแบบกราฟิกที่ออกแบบไว้ หรือเปล่า

.........เริ่มกันเลยคะ........

ภาพกราฟฟิกที่ได้ออกแบบส่งเข้าประกวด มีชื่อว่า THE S. AIKO ไอเดียไม่มีอะไรมากเลยแค่อยากให้ตัวเอง
เป็นตุ๊กตา แต่ก็มีรายละเอียดยิบย่อย เช่น กระโหลก โลโก้ชื่อ ไอคอนสตูดิโออัยโกะ แถมด้วยลายหมากฮอส ยุ่งยากกว่าที่เห็น

ทำการแยกชิ้นส่วนตัวหุ่น แล้วก็จัดแจงทำพื้นผิวให้เรียบโดยใช้กระดาษทรายเบอร์ 400 และ 600 ตามลำดับ  จะเนียนไปไหน

หลังจากขัดและเช็ดฝุ่นออกเรียบร้อยก็พ่นรองพื้นสีเทา ชนิดด้าน แต่เนื่องด้วยพื้นที่ทำงานแคบ พ่นสีใกล้ๆ จากพื้นผิวด้าน
กลายเป็นผิวกึ่งด้านกึ่งมันไปซะอย่างงั้น เอาแล้วววว!!! คนมันไม่เคยทำอะไรรองพื้นมาก่อนิ เค้าบอกต้องรองพื้นก่อนก็ลองดู

หลังจากรองพื้นแห้ง ก็มานั่งตีเส้นไกด์ตำแหน่งคร่าวๆ เชคดูก่อนว่าอะไรจะอยู่ตรงไหน
ตัดนิโต้ แปะๆทำมาร์กไว้เพื่อความแม่นยำ

แล้วก็เริ่มลงสีกันเลย เริ่มจากที่ลำตัวก่อนเลย เพราะคิดว่าน่าจะยากที่สุด ทำอะไรยากๆให้ผ่านไปก่อนก็น่าจะโล่งแล้วก็
ตามด้วยส่วนของเท้า ที่ตามแบบมันจะมีรายละเอียดเยอะแยะ จุกจิก ก็เลยซัดต่อจากช่วงตัว

เมื่อสีที่ทาบนตัว และ รองเท้า แห้ง ก็นั่งติดผ้ากำมะหยี่เนื้อละเอียดที่ตัดเป็นรูปกะโหลกลงไปที่อก และ ใช้ผ้าสักกะหลาด
สีขาวตัดเป็นวงกลม แปะเป็นตาที่ตัวรองเท้า

การแปะผ้าลงบนตุ๊กตาเรซิ่น ทำให้เกิด Texture ที่น่าสนใจให้กับชิ้นงาน ออกมาก็ดูน่ารักแปลกตาไปอีกแบบ 555

เริ่มเข้าสู่โหมดจุกจิ๊ก ลายตารางหมากฮอสนี่แหละ ต้องนั่งตัดนิโต้เป็นชิ้นเล็กๆแล้วแปะสลับไปมา บ้าไปแล้ว ไม่น่าเลยเรา

แล้วก็ค่อยๆ ทาสีทีละช่อง ทีละช่อง จนรอบ ก็ได้ลายตารางเล็กๆรอบส่วนของขา

  ต่อไปก็มานั่งทำส่วนหัว ซึ่งยากมากกับการทำแถบขาว วางให้อยู่ตรงกลางและเท่ากันสองข้าง นั่งไกด์เส้นอยู่เป็นสิบนาที
สุดท้ายก็ได้ออกมา แบบนี้  หลังจากพ่นสีขาวที่หัวหุ่นเสร็จ ก็ต้องห่อพลาสติกปิดไว้เพื่อกันเลอะสีส่วนอื่น

ต่อมาก็ทำการลงสีหัวตุ๊กตา ชั้นที่ 1 2 และ 3 ตามลำดับ กว่าจะเนียนก็เล่นเอาเหนื่อยเลย แฮ่กๆๆ

รอให้สีของส่วนหัวแห้ง ทิ้งไว้ และก็มาห่อพลาสติกกันเปื้อนส่วนตัว เพราะจะต้องพ่นสีที่ลายแถบด้านหลัง กั้นให้ดีให้เนียบเพื่อ
ไม่ให้เกิดความผิดพลาดตอนพ่นสีและจะไปเลอะกับสีที่ลงไว้ก่อนแล้ว
ค่อยๆทำ สุดท้ายก็ลงลายกราฟิกไอคอนสีดำบนแถบขาว

หลังจากที่สีที่ส่วนหัวแห้งแล้ว ก็เริ่มแปะโลโก้ S.AIKO ลงบนพื้นที่สีขาว และ ระบายสีรายละเอียดต่างๆลงไป

เกือบลืมส่วนแขน อันนี้ชิ้นเล็กๆ ไม่มีอะไรยาก กั้นนิโต้ ทำงานเป็นสีๆ สีขาวใช้สเปรย์ ส่วนสีดำก็ใช้ Mono Acrylic.

เหลือส่วนช่องใบหน้า อันนี้ก็ใช้ผ้าสักกะหลาดสีเนื้อแปะเข้าไปเลย ทำให้ใบหน้าดูนุ่มเหมือนกับใส่หมวกกันน็อคจริงๆ

แล้วก็ทำงานส่วนของรายละเอียดบนใบหน้า ตัดผ้าลิ้นเล็กชิ้นน้อยแปะๆ เข้าไป ก็ได้หน้า The S. Aiko เหมือนไหม?

และสุดท้ายจะก่อนสุดท้าย ก็ระบายสีลายตารางบนส่วนโค้งซึ่งนับว่ายาก
เพราะการจะกะระยะ หรือ วัดให้เป๊ะ เป็นอะไรที่ยากมาก
เริ่มจากการร่างเส้นสีเหลือคร่าวๆ ว่าลายจะไขว้ตัดกันยังไง ขนาดเท่าไหร่ต่อช่อง แล้วก็เริ่มเลย แปะนิโต้กันไว้ ลงสีเป็นช่องๆ

ลงสีลายตาราง ทั้งซ้าย--ขวา เล่นเอาแขนเกร็งไปตามๆ กัน เพราะน้ำหนักหัวตุ๊กตาไม่ใช่เบาๆ แต่ก็ผ่านมันมาได้ เนียบบ้าง
ไม่เนียบตามแต่เวลา และ ความเมื่อย จะเอื้ออำนวย 555 ก็ออกมาได้แบบที่เห็นในภาพ

รวบรวมทุกชิ้นส่วนที่เพ้นท์เสร็จ พร้อมประกอบเข้าด้วยกัน

และก็ได้ออกมาเป็นตัวสมบูรณ์เสร็จเรียบร้อย แฮ่ๆๆ 5 วัน ทำวันละชิ้นสองชิ้นช่วงกลางวันของทุกๆ วัน มันผ่านไปอย่างช้าๆ
แต่ก็เพลินๆ ดีนะ ถ้าไม่มีงานอื่นที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ จะนั่งเล่นไม่บ่นเลย เย้ เย้ เสร็จซักที เหนื่อยเว้ยยยย

และภาพสวยๆ ชุดสุดท้ายที่ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะTHE S.AIKO จะไม่ได้อยู่กับเรา เฮ้อ (=_=) เป็ด!